อดีตพระถูกหวย 6 ล้าน สึกออกมาแต่งงานได้ 3 เดือน บุกด่าแม่แท้ ๆ ไม่ชอบใจที่กล่าวโทษเมียว่า ยักยอกเงินในบัญชีจนเหลือ 2 บาท
จากกรณีที่นางอ่อน อายุ 67 ปี ชาวตำบลหนองตาด อำเภอเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐาน ที่ลูกชายไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 65 ก่อนหน้านี้ พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร และรายการเบิกถอนเงิน จากบัญชีธนาคาร ของนายไมล์ อายุ 48 ปี หรือ อดีตพระไมล์ ซึ่งเป็นลูกชาย ที่เคยถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 ส.ค. 65
ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท แล้วได้สึกออกไปแต่งงาน อาจจะถูกนางกนกวรรณ อายุ 50 ปี ภรรยาที่เพิ่งจะแต่งงาน อยู่กินกันได้แค่ 3 เดือน หลอกลวงกระทั่งหมดตัว ด้วยเหตุว่าช่วงวันที่ 18 ธ.ค. 65 ลูกสะใภ้ได้ ไปถอนเงินก้อนสุดท้าย ที่เหลือในบัญชี ของลูกชายไปกว่า 480,000 บาท ในวันเดียว เหลือเงินติดบัญชีเพียงแค่ 2 บาท
ล่าสุดวันที่ (21 ธันวาคม 65) ไปที่บ้านนางอ่อน ผู้เป็นแม่อีกครั้ง พบว่ามีญาติ ๆ
แล้วก็ชาวบ้านมาให้กำลังใจ จำนวนไม่น้อย เพราะว่าหลังจากที่แม่ออกมา ร้องขอความเป็นธรรม กลัวลูกสะใภ้หลอก เอาเงินทรัพย์สิน ลูกจนหมดตัว แต่ว่าช่วงเวลาบ่ายวันที่ 21 ธ.ค. นายไมล์ ลูกชายพร้อมญาติเมีย อีก2 คน
ได้บุกมาทวงเอารถ หกล้อเล็กบรรทุก เครื่องเสียง ที่จอดไว้หน้าบ้านของแม่ แต่แม่กล่าวว่าไม่ให้ เพราะกลัวลูกจะเอาไปขาย รวมทั้งที่ไม่ให้เอาไปเนื่องจากอยากจะเก็บไว้ให้ลูก เผื่อวันใดวันหนึ่ง ลูกหมดตัวไม่เหลืออะไร หรือถูกเมียทิ้ง ก็จะต้องกลับมาอยู่ กับแม่อย่างเดิม
ซึ่งเวลาที่ลูกชายมาโวยวาย ทวงรถแล้วก็ต่อว่าแม่ ก็มีชาวบ้านบันทึกคลิป เหตุการณ์ไว้ด้วย ก็จะเป็นภาพที่นายไมล์ บังคับจะเอากุญแจ รถยนต์จากแม่ แต่พอแม่ไม่ให้ ก็ตะโกนด่าทอด้วย ความโมโหต่อหน้าญาติ รวมทั้งชาวบ้าน
จากการถามผู้เป็นแม่ พูดว่า วันนี้ลูกชายได้ บุกมาทวงรถหกล้อ ที่จอดไว้หน้าบ้านแม่ จะเอาไปที่บ้านเมีย แต่พอตัวเองบอกว่า ไม่ให้เนื่องจากต้องการเก็บไว้ให้ลูกชาย ถ้าหากอนาคตลูกไม่เหลืออะไร หรืออาจถูกเมียทิ้ง ด้วยเหตุว่าไม่มีอะไรแน่นอน
ที่ผ่านมาภายหลังลูกถูกหวย ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากลูก บ้านที่ลูกสร้างให้ ก็ยังสร้างไม่เสร็จ และไม่รู้ว่า ลูกจะสร้างให้ต่อจนเสร็จหรือไม่ ตนจึงต้องการดูแลรถหกล้อ และที่ดินที่ลูกซื้อ ไว้ตอนถูกลอตเตอรี่เอาไว้ให้ลูก แต่ว่าลูกกลับมาโวยวายใส่ ทั้งข่มขู่จะทำร้าย แล้วยังประกาศตัดแม่ลูก หากแม่ตาย ก็จะไม่ยอมมาเผาศพด้วย ตนก็รู้สึกเสียใจมาก ที่ลูกมาทำอย่างงี้
หลังจากนั้นก็ไปสอบถามนายไมล์ลูกชาย อดีตพระถูกหวย ซึ่งอยู่ที่บ้านภรรยา
ก็ยอมรับว่าได้ไปทวง เอารถหกล้อบรรทุกเครื่องเสียง ที่จอดไว้ที่บ้านแม่จริง เพื่อจะเอาไปแห่งานต่าง ๆ ในตอนเทศกาลปีใหม่ ที่รับเอาไว้ ล่วงหน้าหลายงาน หากไม่มีรถเครื่องเสียง ไปรับงานก็ต้องเสียค่าปรับ ที่รับงานเอาไว้ พอแม่ไม่ยอมเอากุญแจให้ ก็เอารถเครื่องเสียงมาไม่ได้ จึงโมโหเผลอปากต่อว่าแม่ ก็อยากจะขอโทษแม่และยกมือไหว้ขอโทษแม่ผ่านสื่อด้วย
ส่วนที่แม่กลุ้มอกกลุ้มใจว่า ภรรยาจะหลอกเอาเงิน หรือทรัพย์สินของตนเองนั้น ยืนยันว่าเดี๋ยวนี้ทรัพย์สิน ที่ตนเองซื้อก็ยังเป็นชื่อของตน ไม่ได้ยกให้ภรรยา ส่วนเงินที่ภรรยา ถอนออกมาล่าสุด ภรรยาก็เป็นคนเก็บไว้
ด้านนางกนกวรรณ ภรรยา ซึ่งวันนี้ก็ใส่ทั้งสร้อยทอง กำไลทอง และแหวนเพชร ที่สามีให้เป็นสินสอดวันแต่งงาน ก็บอกว่าสินสอดยังอยู่ครบ ส่วนเงิน 480,000 บาท ที่ถอนออกมา ล่าสุดก็ยังอยู่กับตัวเอง แต่ว่าเหลือแค่หลักหมื่นแค่นั้น ด้วยเหตุว่าใช้ซื้อของมาตกแต่งรถแห่ไว้รับงาน แต่ว่ายืนยันว่า มิได้หลอกจะเอาเงินสามี
ตามที่แม่หรือญาติฝ่ายชายกล่าวหา ยืนยันว่าที่สมรสและก็ใช้ชีวิต อยู่ด้วยกันด้วยเหตุว่าความรัก ซึ่งถ้าจะเลิก หรือแยกทางกัน ก็ขึ้นกับเราสองคน ไม่ได้เกี่ยวกับเงิน หรือคนอื่น ๆ ส่วนปัญหาระหว่างแม่กับสามี ที่ไม่เข้าใจกัน ตนไม่ได้อยากยุ่ง
ต่อจากนั้นเวลาค่ำ แม่ไปหาลูกชาย ที่บ้านภรรยา เพื่อจะได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน แต่ว่าลูกชายกลับเมาหลับ อยู่ในบ้าน พอลุกขึ้นมา ก็พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ส่วนภรรยาไม่ขอยุ่ง ได้ปล่อยให้แม่ลูกเขาคุยกันเอง แต่สุดท้ายก็ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากว่าลูกชาย อยู่ในอาการเมาค้าง
จบด้วยดี อดีตพระถูกหวย 6 ล้าน เมียถอนเงินในบัญชี เหลือเพียง 2 บาท
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา วันแต่งงาน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ลูกชายได้นำสินสอด เป็นเงินสด 100,999 บาท พร้อมทองหนัก 5 บาท แหวนเพชร 1 วง รวมทั้งสมุดบัญชีธนาคาร ของลูกชาย ที่มียอดเงินในบัญชี 1.2 ล้านบาท ที่ได้มาจาก การถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไปวางใส่ในพานสินสอด เพื่อมอบให้ภรรยา เป็นคนดูแลด้วย
แต่ว่าต่อมาวันที่ 16 ธ.ค. นางกนกวรรณ ลูกสะใภ้ ได้ไล่ลูกชายตนออกมาจากบ้าน โดยหาว่าลูกชาย ดื่มแต่สุรา หลังจากนั้นลูกชายจึงได้กลับไปเอา ทรัพย์สิน ที่ลูกชายเป็นคนซื้อ
อาทิเช่น รถหกล้อเล็กติดเครื่องเสียง ไว้สำหรับรับงานแห่คืน และก็พยายาม จะเอารถกระบะป้ายแดงคืนด้วย แต่ว่าลูกสะใภ้ไม่ให้แถมยังเรียกตำรวจมา หาว่าลูกชายตนเองบุกรุกบ้าน
แล้วต่อจากนั้นลูกชาย ก็ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมาย แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านกับแม่ แต่พอ เช้าวันนี้ 20 ธ.ค. ภายหลังจากลูกสะใภ้ทราบว่าลูกชายแจ้งความ ก็กลับมาตามเอาลูกชายตัวเอง กลับไปอยู่ที่บ้านคืน